คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ซากเมืองโบราณดงเมืองเตย
- หมู่8 ตำบลสงเปือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร 35110
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
ดงเมืองเตยเป็นเมืองเก่าสมัยขอมจะเป็นเมืองร้างมาแล้วนานเท่าไรไม่ทราบได้ สภาพที่เห็นมาจากปู่ย่าตาทวดหลายชั่วอายุคน ดงเมืองเตยมีป่าไม้ขึ้นสูงข้างล่างโปร่ง มีหมู่ไม้เล็กๆ ขึ้นบ้าง ต้นไม้ใหญ่ได้แก่ ไม้ยาง ไม้ตะแบก ไม้ยางเหียง เป็นป่าหนาแน่นมาก พวกพ่อแม่ปู่ย่าตายายไม่กล้าตัดต้นไม้ในดงนี้ เพราะดงเมืองเตยมีผีดุเรียกว่า ผีปู่ตา ป่าไม้จึงเป็นที่อาศัยของลิง และนกหลายจำพวก บึงรอบบริเวณดงเมืองเตยเป็นหนองน้ำขนาดลึกมีน้ำขังตลอดปี เป็นที่อาศัยและเป็นที่เพาะพันธุ์ปลาตามธรรมชาติ นอกจากนกจำพวกต่างๆ แล้วบึงนี้ได้ชื่อว่ามีเต่ามากที่สุด เหตุที่มีเต่ามากเช่นนี้ชาวบ้านนับถือผีปู่ตา ปู่ตาห้ามจับกินทำลายสัตว์พาหนะของท่าน คือ ลิงและเต่า ถ้าเกิดทำอันตรายขึ้นมา จะต้องมีอันเป็นไป”

“ต่อมาเมื่อประมาณ 90 ปีมาแล้ว ชาวบ้านสงเปือยมีหมอร่ำเรียนวิชาอาคมมาทำพิธีปราบผีดงเมืองเตยได้ หมอผู้มีวิชาอาคมผู้นี้ชื่อ ผู้ใหญ่สุวอ เหตุการณ์นี้ตรงกับสมัยพ่อใหญ่อัครฮาด เป็นตาแสง เมื่อชาวบ้านใกล้ไกลได้ยินข่าวพ่อใหญ่สุวอข่มผีดงเมืองเตยได้แล้ว ก็พากันหลั่งไหลมาจับเต่าปลาดงเมืองเตยไปเป็นอาหารจนเกือบเกลี้ยงบึง เต่าจึงเกือบสูญพันธุ์มาจนบัดนี้ พ่อใหญ่สุวอได้แบ่งปันที่บึงออกเป็นที่นาให้พี่น้องญาติมิตรทำนามาจนทุกวันนี้ ส่วนบริเวณดงเมืองเตยได้แบ่งบันทำไร่ สวน ปลูกพืชทำกินมาเท่าทุกวันนี้ อันนี้เป็นเรื่องจริง ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุครบ 90 ปี เช่น พ่อใหญ่อ่อน หอมกลิ่น พ่อใหญ่บู กกเปือย ยังมีชีวิตเป็นพยานอยู่
ประวัติความเป็นมา
กล่าวถึงดงเมืองเตยซึ่งตั้งอยู่ในเขตบ้านสงเปือยไว้ว่า ดงเมืองเตยเป็นเมืองเก่าสมัยขอมจะเป็นเมืองร้างมาแล้วนานเท่าไรไม่ทราบได้ สภาพที่เห็นมาจากปู่ย่าตาทวดหลายชั่วอายุคน ดงเมืองเตยมีป่าไม้ขึ้นสูงข้างล่างโปร่ง มีหมู่ไม้เล็กๆ ขึ้นบ้าง ต้นไม้ใหญ่ได้แก่ ไม้ยาง ไม้ตะแบก ไม้ยางเหียง เป็นป่าหนาแน่นมาก พวกพ่อแม่ปู่ย่าตายายไม่กล้าตัดต้นไม้ในดงนี้ เพราะดงเมืองเตยมีผีดุเรียกว่า ผีปู่ตา ป่าไม้จึงเป็นที่อาศัยของลิง และนกหลายจำพวก บึงรอบบริเวณดงเมืองเตยเป็นหนองน้ำขนาดลึกมีน้ำขังตลอดปี เป็นที่อาศัยและเป็นที่เพาะพันธุ์ปลาตามธรรมชาติ นอกจากนกจำพวกต่างๆ แล้วบึงนี้ได้ชื่อว่ามีเต่ามากที่สุด เหตุที่มีเต่ามากเช่นนี้ชาวบ้านนับถือผีปู่ตา ปู่ตาห้ามจับกินทำลายสัตว์พาหนะของท่าน คือ ลิงและเต่า ถ้าเกิดทำอันตรายขึ้นมา จะต้องมีอันเป็นไป ต่อมาเมื่อประมาณ 90 ปีมาแล้ว ชาวบ้านสงเปือยมีหมอร่ำเรียนวิชาอาคมมาทำพิธีปราบผีดงเมืองเตยได้ หมอผู้มีวิชาอาคมผู้นี้ชื่อ ผู้ใหญ่สุวอเหตุการณ์นี้ตรงกับสมัยพ่อใหญ่อัครฮาด เป็นตาแสง เมื่อชาวบ้านใกล้ไกลได้ยินข่าวพ่อใหญ่สุวอข่มผีดงเมืองเตยได้แล้ว ก็พากันหลั่งไหลมาจับเต่าปลาดงเมืองเตยไปเป็นอาหารจนเกือบเกลี้ยงบึง เต่าจึงเกือบสูญพันธุ์มาจนบัดนี้ พ่อใหญ่สุวอได้แบ่งปันที่บึงออกเป็นที่นาให้พี่น้องญาติมิตรทำนามาจนทุกวันนี้ ส่วนบริเวณดงเมืองเตยได้แบ่งบันทำไร่ สวน ปลูกพืชทำกินมาเท่าทุกวันนี้ อันนี้เป็นเรื่องจริง ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุครบ 90 ปี เช่น พ่อใหญ่อ่อน หอมกลิ่น พ่อใหญ่บู กกเปือย ยังมีชีวิตเป็นพยานอยู่ จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุประมาณ 90 ปี ของบ้านสงเปือยเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของดงเมืองเตยกล่าวว่า เห็นสภาพของดงเมืองเตยตั้งแต่เยาว์วัยก็คงสภาพที่เป็นในปัจจุบัน คือเป็นเนินดินขนาดใหญ่ที่มีคันดินและคูน้ำล้อมรอบ เหตุที่ได้ชื่อว่าดงเมืองเตย เนื่องจากบริเวณโดยรอบดงเมืองเตยมีต้นเตยซึ่งมีผลกลมเป็นเครือขึ้นอยู่โดยรอบนั่นเอง
จากการศึกษาของนักโบราณคดีกรมศิลปากรและนักวิชาการต่างๆ (สมเดช ลีลามโนธรรม 2538) พบว่าชุมชนโบราณดงเมืองเตยปรากฏการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว ตั้งถิ่นฐานอยู่บนเนินใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ บริเวณลานตะพักลำน้ำระดับต่ำ คงดำรงชีพด้วยการเพาะปลูกข้าวในช่วงระยะเวลานี้ มีการติดต่อกับชุมชนอื่นๆที่อยู่ห่างไกลภายในภูมิภาค มีการถลุงและผลิตเหล็ก (ก่อนพุทธศตวรรษที่ 12) คงมีการส่งเหล็กเป็นสินค้าออกส่วนหนึ่ง เพราะได้พบปริมาณเศษตะกรันเหล็กเป็นจำนวนมากภายในชุมชน การอยู่อาศัยมีพัฒนาการทางสังคมที่ซับซ้อน ประชากรของชุมชนมีเพิ่มมากขึ้น มีการติดต่อค้าขายกับชุมชนอื่น เกิดอาชีพต่างๆขึ้น ชุมชนคงมีการขยายตัว เกิดผู้นำชุมชน และต่อมาจึงมีการขุดคูน้ำและทำคันดินขึ้น อาจแสดงให้เห็นถึงการมีระบบชนชั้นขึ้นแล้ว
สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ ราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 ชุมชนโบราณดงเมืองเตยเกิดผู้นำชุมชนอย่างเด่นชัด มีระบบการปกครองในระบบกษัตริย์ มีพัฒนาการเข้าสู่สังคมเมือง ชุมชนได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมเขมร เหตุที่อิทธิพลเขมรเข้ามาครอบคลุมตั้งแต่ช่วงต้นประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเพราะชุมชนแห่งนี้อยู่ใกล้กับเส้นทางที่วัฒนธรรมเขมรแพร่เข้ามาสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม ชุมชนแห่งนี้ได้รับอิทธิพลทวารวดีด้วย พัฒนาการชุมชนโบราณแห่งนี้ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12-16 ได้รับอิทธิพลทั้งวัฒนธรรมทวารวดีและวัฒนธรรมเขมร หลังจากนั้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-17 หรือ 18 ชุมชนได้รับวัฒนธรรมเขมรเพียงอย่างเดียว เป็นที่น่าสังเกตว่าชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนขนาดเล็ก มีศาสนสถานเป็นศูนย์กลางทางศาสนาเพียงแห่งเดียว ประชากรของเมืองคงมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากไม่มีการขยายขนาดของชุมชนออกไป การอยู่อาศัยแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงการนับถือศาสนาบ้าง เช่น เปลี่ยนจากศาสตรพราหมณืเป็นศาสนาพุทธ แต่ก็ยังคงใช้ศาสนสถานหลังเดิมเป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องของชุมชนได้เป็นอย่างดี ภายหลังชุมชนโบราณดงเมืองเตยร้างไป อาจจะในช่วงหลังพุทธศตวรรษที่ 18 และได้มีผู้คนเข้ามาใช้พื้นที่อีกครั้งในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20-22[1] ดงเมืองเตยเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนเนินดินรูปค่อนข้างรีไม่สม่ำเสมอ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านยาวตามแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 650 เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางตามแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 450 เมตร เป็นเมืองที่มีคูน้ำล้อมรอบตัวเมืองเพียงชั้นเดียว มีคันดินขนาดเล็กอยู่รายรอบตัวเมืองทั้งด้านในและนอกคูเมือง คูเมืองมีความกว้างเฉลี่ยประมาณ 100 เมตร สภาพของคูในปัจจุบันได้ตื้นเขินกลายสภาพไปเสียเป็นส่วนมาก ทางด้านทิศใต้มีคูเมืองยังคงมีน้ำขังอยู่บางส่วน เรียกว่า “หนองปู่ตา” หรือ “พุดตา” ทางด้านทิศตะวันออกมีคูเมืองเรียกว่า “หนองบัวขาว” ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้มี “หนองอีตู้” ส่วนทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีคูเมืองเรียกว่า “หนองฝักหนาม” สภาพของคูเมืองยังปรากฏให้เห็นที่หนองฝักหนาม หนองอีตู้ และหนองปู่ตา ส่วนหนองบัวขาวปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าว ทั้งนี้ห่างออกไปจากเมืองโบราณประมาณ 2.5 กิโลเมตร ทั้งทางด้านทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศใต้
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
กลุ่มนักท่องเที่ยว
• กลุ่ม MICE / ศึกษาดูงาน
• กลุ่มศิลปวัฒนธรรม / ประวัติศาสตร์
การเดินทาง
• รถยนต์
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
สิ่งอำนวยความสะดวก
ลานจอดรถ
สุขา
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
ไร่คุณมนเป็นสวนเกษตรแบบผสมผสาน สวนผักปลอดสารพิษและโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นานาชนิด อาทิ น้ำนมข้าวโพด น้ำผัก กล้วย/ขนุนอบแห้ง กระยาสารทเคลือบน้ำผัก ลูกชิ้นข้าวโพด ไอศกรีมน้ำนมข้าวโพด อาหารชีวจิตเพื่อสุขภาพ เตาเผาถ่านอิวาติ และศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทย บนพื้นที่ 150 ไร่ ด้วยเครื่องจักรอันทันสมัย โปรแกรมการท่องเที่ยว เรียนรู้กิจกรรมตามฐานต่างๆ 1.ฐานผลิตน้ำนมข้าวโพด 2.ฐานผลิตไอศครีมน้ำนมข้าวโพด 3.ฐานเก็บข้าวโพดสดจากไร่ 4.ฐานสกัดน้ำมันงา 5.ฐานสกัดน้ำส้มควันไม้และเตาเผาถ่านอิวาเตะ 6.ฐานทำลูกประคบ 7.บ้านดิน เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) สะพานข้ามแม่น้ำแคว, สุสารสัมพันธมิตร ระยะทาง 25 กิโลเมตร วัดถ้ำเสือ ระยะทาง 30 กิโลเมตร ต้นจามจุรียักษ์ ระยะทาง 30 กิโลเมตร สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน น้ำนมข้าวโพด น้ำมันงา กล้วยอบสุญญากาศ
กาญจนบุรี
สวนผลไม้ตามฤดูกาล ทุเรียนหอม เงาะหวาน มังคุดอร่อย ราคาจับต้องได้ ใส่ใจทุกการปลูก ส่งตรงถึงมือลูกค้า
สระบุรี
พื้นที่ปลูกพืชผลการเกษตรปลอดสารพิษ บริการที่พักแบบแคมป์ปิ้ง สามารถปั่นจักรยานชมวิวทิวทัศน์รอบๆที่สวยงามได้
พะเยา
ภูเกษตร เป็นภูเขาสูง ลานหินกว้าง น้ำตกตาดฮังในฤดูฝน มีหินเป็นรูปร่างต่าง ๆ มากมายเกิดจากธรรมชาติ และมีหน้าผาสูงชัน เป็นที่ตั้งวัดภูเกษตร (ดานหินหัวนาค)
อำนาจเจริญ
สวนสวรรค์สุพรรณบุรี บนเนื้อที่หลายร้อยไร่ ประกอบไปด้วยพืชพันธุ์มากมายหลายชนิด ที่นำมาจัดแสดงให้ชมในแต่ละช่วงเวลา และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทั้งไม้ดอกของไทย และต่างประเทศ สีสันสดสวยงามตระการตา และไม้ใบ ไม้ผล ที่ผ่านการค้นคว้าและทำการขยายพันธุ์ จนได้พันธุ์ที่เหมาะสมมีคุณภาพดีที่สุด เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกให้เกษตรกรได้นำไป ทำการเพาะปลูกต่อไป
สุพรรณบุรี
1 ฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร ศพก.บ้านนาน้ำซำ จำนวน 10 ฐาน ดังนี้ 1) ฐานเรียนรู้การผลิตสารชีวภัณฑ์ (ไตรโคเดอร์มา, บิวเวอร์เรีย, BT, จุลินทรีย์ป่า , ไส้เดือนฝอย) 2) ฐานเรียนรู้การเผาถ่าน/กลั่นน้ำส้มควันไม้ 3) ฐานการเลี้ยงไก่ไข่พื้นเมือง 4) ฐานการเพาะเห็ด 5) ฐานการปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ 6) ฐานการเลี้ยงปลาน้ำจืด 7) ฐานการทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง 8) ฐานการกลั่นสมุนไพร 2 ศึกษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 1) ถ้ำผาน้ำทิพย์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ 2) ถ้ำค้างคาว พบกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของค้างคาวนับล้านตัว 3) ถ้ำชมพู 4) วัดเขาสามยอด 5) น้ำตกตาดฟ้า 6) น้ำผุดตาดเต่า 7) ถ้ำภูตาหลอ 8) จุดชมวิวดงสะคร่าน 9) โครงการพัฒนาป่าดงลาน 3 แหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร 1) การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง 2) การปลูกและการขยายพันธุ์ฝรั่ง 3) สวนลำไยสร้างรายได้ 4) การเพาะเห็ดเสริมรายได้ โปรแกรมการท่องเที่ยว โปรแกรม 2 วัน 1 คืน เรียนรู้ด้านการเกษตรที่ ศพก.  1-2 ฐาน > รับประทานอาหารกลางวัน > ชมถ้ำผาน้ำทิพย์ > ชมค้างคาว > รับประทานอาหารเย็น > พักผ่อนบ้านพักโฮมสเตย์/ภูผาม่านแคมป์ > แปลงหน่อไม้ฝรั่ง> สวนกล้วยหอมทอง > วัดเขาสามยอด > รับประทานอาหารกลางวัน > เดินทางกลับ หมายเหตุ  – โปรแกรมการท่องเที่ยวและค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม - อาหารว่าง 3 มื้อ โปรแกรม 1 วัน เรียนรู้ด้านการเกษตรที่ ศพก.  1-2 ฐาน > รับประทานอาหารกลางวัน > ชมถ้ำผาน้ำทิพย์ > ชมค้างคาว > เดินทางกลับ หมายเหตุ  – โปรแกรมการท่องเที่ยวและค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม - อาหารว่าง 2 มื้อ เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) 1) ถ้ำผาน้ำทิพย์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ ระยะทาง 3 กม. 2) ถ้ำค้างคาว  ระยะทาง 6 กม. 3) ถ้ำชมพู ระยะทาง 4 กม. 4) วัดเขาสามยอด ระยะทาง 6 กม. 5) น้ำตกตาดฟ้า ระยะทาง 18 กม. 6) น้ำผุดตาดเต่า ระยะทาง 12 กม. 7) ถ้ำภูตาหลอ ระยะทาง 16 กม. 8) จุดชมวิวดงสะคร่าน ระยะทาง 18 กม. 9) โครงการพัฒนาป่าดงลาน ระยะทาง 22 กม. สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน 1 ร้านค้าชุมชนบ้านเซินใต้ หมู่ 3  บ้านเซินใต้ ตำบลโนนคอม จำหน่ายเสื้อผ้าพื้นเมืองภูผาม่าน 2 ร้านค้าชุมชนบ้านโนนคอม หมู่ 1 บ้านโนนคอม ตำบลโนนคอม จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและของฝาก
ขอนแก่น
กลุ่มเลี้ยงผึ้งบ้านปากแพรก ตั้งอยูตำบลละหาร อำเภอปลวกแดง มีผลิตภัณฑ์แปรรูป/ของฝาก และยังสามารถศึกษาการเลี้ยงผึ้ง สำหรับคนที่สนใจการเลี้ยงผึ้ง
ระยอง
สวนบ้านเรา มีทุเรียนได้ลิ้มลองรสชาติที่แท้จริงของทุเรียนพันธุ์หายากเหล่านั้น ซึ่งมีน้อยคนนักจะได้สัมผัส สวนบ้านเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำทุเรียนทุกสายพันธุ์ให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด ให้สมกับเป็นผลไม้ชั้นสูงที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งผลไม้”
ระยอง
หากใครกำลังมองหาที่พักผ่อนหย่อนใจจากการทำงานอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งสัปดาห์ ขอเชิญชวนมาท่องเที่ยวชมสวนดอกไม้ ชื่นชมกับธรรมชาติ รับประทานอาหารอร่อย ดื่มกาแฟหอมๆ ถ่ายรูปเล่นมีรถรับส่งเข้าชมไร่
กำแพงเพชร
ฟาร์มสายทอง ภายในฟาร์มปลูกพันธุ์ไม้หลากหลาย เช่น สวนมัลเบอร์รี่, เสาวรส, หมามุ่ยอินเดีย ฯลฯ พิกัด : https://goo.gl/maps/8TVTF7aQG5gtMS1fA
สระบุรี
เส้นทางถนนในถ้ำขรุขระ เมื่อขับไประยะหนึ่งมีน้ำตกไหลในอุโมงค์ มีน้ำไหลเหมือนลำธารตลอดปีเพราะอุโมงค์ขุดผ่านตาน้ำ ภายในอุโมงค์มีหินงอกหินย้อยงดงามที่ก่อตัวขึ้นบนผนังตลอดทางซ้ายขวา มีอุโมงค์แยก ซึ่งเป็นทางแยกที่ขุดไปตามสายแร่ ดังนั้นหากเข้ามาโดยไม่มีผู้นำทาง อาจจะหลงทางอยู่ในอุโมงค์มืดมิด สามารถเข้าชมได้ตลอดปี
กาญจนบุรี
พิกัด https://goo.gl/maps/5VAeHUFWAcovFCuYA
สระบุรี