คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรดอยฮาง โครงการกำลังใจในพระราชดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง)
ศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรดอยฮาง โครงการกำลังใจในพระราชดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง) ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง สังกัดเรือนจำกลางเชียงราย ดำเนินการตามโครงการในพระราชดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในเรือนจำ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปใช้ได้จริงภายหลังพ้นโทษ เป็นการสร้างกำลังใจให้กับผู้ต้องขังและยังทำให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสในการกลับคืนสู่สังคม โดยมีทักษะที่สามารถดำรงชีวิตที่พึ่งตนเองได้ไม่หวนกลับไปกระทำผิดอีก ในปัจจุบัน เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เปิดให้บริการเข้าเยี่ยมชมการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และเป็นจุด Check in ที่สำคัญของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการ
ประวัติความเป็นมา
ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเยี่ยมเยียนและประทานสิ่งของแก่ผู้ต้องขังหญิงและเด็กติดผู้ต้องขังหญิง ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร การเสด็จเยี่ยมดังกล่าว ทำให้ทรงเห็นปัญหาของผู้ต้องขังหญิง ที่เมื่ออยู่ในเรือนจำแล้วก็ต้องขาดโอกาสต่างๆ ในชีวิตไป โดยเฉพาะความรักความอบอุ่นจากครอบครัว รวมทั้งทารกบริสุทธิ์ไร้ความผิดที่ถือกำเนิดขึ้นในเรือนจำจากครรภ์ของแม่ที่เป็นผู้ต้องขัง ซึ่งก็ทำให้ความขาดโอกาสชีวิตในด้านต่างๆ เกิดการตกทอดและดำเนินต่อไปอย่างซ้ำซ้อน และการขาดโอกาสต่างๆ เหล่านี้ย่อมนำมาซึ่งปัญหาต่อไปในอนาคต ปัญหาที่ทรงค้นพบนั้นได้จุดไฟพระปณิธานในการที่จะทรงช่วยเหลือและให้กำลังใจแก่ผู้ต้องขังหญิงขึ้น ทำให้ใน 5 ปีต่อมา เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นปริญญาเอก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จึงทรงก่อตั้งโครงการกำลังใจขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2549 ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร โดยแรกเริ่มนั้นทรงโปรดให้วิทยาลัยพยาบาล สภากาชาดไทย เข้ามาดำเนินงานภายใต้พระดำริที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตและเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ต้องขังที่ตั้งครรภ์และทารกที่เกิดในเรือนจำ และเมื่อโครงการดังกล่าวนี้ได้ขยายไปสู่เรือนจำอื่นๆ ทั่วประเทศ ระดับของการช่วยเหลือก็ขยายไปสู่การฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำต่างๆ อันเป็นการเตรียมความพร้อมในการกลับสู่สังคมด้วย นอกจากนี้ ยังทรงเล็งเห็นว่า การประทานสิ่งของบรรเทาทุกข์นั้นยังไม่ใช่การช่วยเหลือที่ตรงจุดและยั่งยืน เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปแล้วสิ่งของเหล่านั้นย่อมหมดไป จึงมีพระดำริให้มีการน้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มาปรับใช้ในเรือนจำ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังรู้คุณค่าของตัวเอง พึ่งพาตนเองได้ ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย เพื่อเมื่อออกไปจากเรือนจำแล้วจะสามารถหยัดยืนได้ด้วยตัวเองโดยไม่หันไปกระทำผิดซ้ำ ในการน้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในเรือนจำนั้น นอกจากจะมีการอบรมทางด้านแนวทางทัศนคติที่ควรมีในการใช้ชีวิต ยังมีความพยายามทำให้เกิดการปฏิบัติอันเป็นรูปธรรมด้วยการอบรมการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งต่อมาได้มีการขยายผลเพิ่มเติมเป็นโครงการพัฒนาระบบการผลิตมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สำหรับเรือนจำชั่วคราว จนกระทั่งเรือนจำนำร่องโครงการทั้ง 4 แห่งได้รับมาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 9000 เล่ม 1-2552 ส่วนพืชผักจากโครงการก็ได้ออกสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ “Inspire กำลังใจ” และในเวลาต่อมา ผลิตภัณฑ์ชาใบหม่อนอินทรีย์ของเรือนจำชั่วคราวแคน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ก็ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตสินค้าอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ โครงการกำลังใจยังได้เล็งเห็นถึงปัญหาในเรื่องของทุนในการประกอบอาชีพ กล่าวคือ เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษมาแล้ว แม้จะมีความรู้ในการประกอบอาชีพติดตัวมาจากการอบรมในเรือนจำ แต่ก็ยังอาจเป็นการยากในการหาเงินทุนเพื่อแปรเปลี่ยนความรู้ที่ตนมีเป็นการประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเอง จึงได้มีประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหาร “กองทุนตั้งตัวได้” ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการมอบทุนให้กับผู้ต้องขัง จากที่เดิมกองทุนดังกล่าวเน้นการให้ทุนกับผู้ที่ศึกษาในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา หรือจบการศึกษามาไม่เกิน 5 ปี หลักสูตรกำลังใจ – ดอยฮาง Model หลักสูตรกำลังใจคือกระบวนการปลายน้ำของความพยายามในการคืนผู้ต้องขังสู่สังคม เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น แม้จะมีกระบวนการในการเตรียมความพร้อมผู้ต้องขังก่อนปล่อยตัว แต่ก็ยังมีลักษณะการเตรียมอย่าง one size fit all หรือก็คือเป็นการเตรียมการโดยไม่ได้มีการคำนึงถึงความแตกต่างของผู้ต้องขังแต่ละคนซึ่งย่อมส่งผลต่อทางเลือกในชีวิตที่แตกต่าง เช่น ปัญหาการไม่มีตลาดรองรับทักษะอาชีพที่ฝึกมาจากในเรือนจำ ไม่ว่าผู้ต้องขังจะเลือกกลับไปอยู่ในสังคมเดิมหรือพยายามเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสังคมอื่น ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นสู่การกระทำผิดซ้ำจนต้องโทษจำคุกได้อีก ในการนี้ จึงมีการจัดตั้งโครงการนำร่อง “ศูนย์การเรียนรู้ดอยฮาง” หรือ “ดอยฮาง Model” ขึ้นที่เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง จังหวัดเชียงราย ซึ่งพัฒนาขึ้นตามศาสตร์แห่งพระราชา “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา” มุ่งสร้างสมดุลระหว่างชีวิตกับสังคมบนหลัก 3S คือ Survival (การอยู่รอด) Sufficiency (ความพอเพียง) และ Sustainability (ความนั่งยืน) ดอยฮาง Model นั้นแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1. ปรับทุกข์-ผูกมิตร: สร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อเรียนรู้ผู้อื่นและสะท้อนตัวเอง 2. ถอดรื้อ-สร้างใหม่: สะท้อนเหตุที่นำไปสู่การใช้ยาเสพติด เสริมสร้างกำลังใจสู่ชีวิตใหม่ 3. ดูแลต่อเนื่อง: ภาคีเครือข่ายรวมทั้งบุคคลแวดล้อมร่วมกันดูแลผู้ต้องขังด้วยกัน ในดอยฮาง Model นี้ ผู้ต้องขังจะเป็น Active Learner คือไม่ใช่ผู้ที่นั่งฟังการสั่งสอนอย่างเดียว แต่คือได้เข้าสู่การเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม ทั้งนี้ สิ่งสำคัญก็คือ ต้องมีการคัดกรองผู้ต้องขังที่ปรารถนาจะได้รับประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการจริงๆ ไม่ใช่เพียงเพื่อได้ย้ายมาอยู่ในเรือนจำชั่วคราวดอยฮางที่มีความแออัดน้อยกว่าและสะดวกสบายกว่า และในส่วนของผู้คุมนั้น จะต้องไม่ทำหน้าที่ควบคุมสั่งสอน แต่คือสวมบทบาทของผู้เสริมสร้างวิธีคิดและประสานประโยชน์กับภาคีเครือข่ายภายนอก ทั้งเพื่อสามารถสร้างอาชีพที่เหมาะสมแก่ตัวผู้ต้องขัง มีตลาดรองรับ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจให้สังคมภายนอกยอมรับและให้โอกาสในตัวผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปแล้ว
ลักษณะเด่น
เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง สังกัดเรือนจำกลางเชียงราย ดำเนินการตามโครงการในพระราชดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในเรือนจำ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปใช้ได้จริงภายหลังพ้นโทษ เป็นการสร้างกำลังใจให้กับผู้ต้องขังและยังทำให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสในการกลับคืนสู่สังคม โดยมีทักษะที่สามารถดำรงชีวิตที่พึ่งตนเองได้ไม่หวนกลับไปกระทำผิดอีก ในปัจจุบัน เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เปิดให้บริการเข้าเยี่ยมชมการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และเป็นจุด Check in ที่สำคัญของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการ
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
ไร่รื่นรมย์เป็นพื้นที่ community ที่ๆจะเปิดประสบการณ์และสร้างแรงบัลดาลใจให้คนกลับเข้ามาหาความสมดุลของธรรมชาติและกับตัวเอง ผ่านไร่เกษตรอินทรีย์ผสมผสาน ที่พักฟาร์มสเตย์ ร้านอาหารสุขภาพสร้างสรรค์จากวัตถุดิบที่ดีจากการทำเกษตรที่ดี กิจกรรมและคอร์สเรียนวิถีชีวิตอินทรีย์ให้ใกล้ชิดธรรมชาติ และผ่านทางสินค้าเกษตรสดและแปรรูปอินทรีย์ที่ได้รับมาตราฐานสากล และจากวัตถุดิบชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่พวกเราตั้งใจปลูกและพิถีพิถันในการดูแลทุกขั้นตอน เพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดีที่สุด ให้กับผู้บริโภคทุกคน ... เปิดประสบการณ์พักผ่อนในรูปแบบใหม่ที่เรียกได้อย่างเก๋ไก๋ว่า “Organic Life Style” เรียกได้ว่า มาครบจนในที่เดียว มีทั้ง ไร่ออร์แกนิค คาเฟ่ ฟาร์มสเตย์ ศูนย์การเรียนรู้ มากมาย
เชียงราย
เรียนรู้การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และจำหน่ายผักไฮโดรโปนิกส์
ระยอง
อาณาจักรสวนดอกไม้แห่งวังน้ำเขียว ‘ฟลอร่า พาร์ค’ อาณาจักรทุ่งดอกไม้นานาชนิดแห่งอำเภอวังน้ำเขียว ที่มีพื้นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ภายในมีดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ ยังมีโซนโรส พาร์ค ที่เป็นสวนสวยเต็มไปด้วยดอกกุหลาบหลากสายพันธุ์ โดยจะได้พบกับสวนดอกไม้นานาพันธุ์ อุโมงค์ดอกไม้ กำแพงดอกไม้ และราชินีแห่งดอกไม้งาม รวมไปถึงพันธุ์ดอกไม้หายากที่สามารถเพาะพันธุ์ได้เฉพาะที่วังน้ำเขียวเท่านั้น
นครราชสีมา
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ถือเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการ ฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เดิมทีเป็นนากุ้งที่ได้รับสัมปทาน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า – คลองคอย ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาที่ปราณบุรี กรมป่าไม้ได้สนองพระราชดำริด้วยการยกเลิกสัมปทานนากุ้ง แล้วรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ พัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมเร่งฟื้นฟูป่าชายเลนและกำหนด ให้เป็นพื้นที่เป้าหมายในการปลูกป่าและพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนในเวลาต่อมา
ประจวบคีรีขันธ์
แปลงเกษตรการเรียนรู้ของศูนย์ส่งเสริมเยาวชนเกษตรอาเซียน จ.กาญจนบุรี ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ภายใต้ชื่อ “FYPC Garden” โดยภายในมีจุดเรียนรู้ทั้งหมด 7 จุด ที่พร้อมให้บริการประชาชนที่สนใจ ได้แก่ 1.แปลงเรียนรู้ไม้ดอกไม้ประดับ 2.จุดเรียนรู้การเลี้ยงจิ้งหรีด 3.แปลงเรียนรู้สมุนไพร 4.บ้านเกษตรสมบูรณ์ 5.แปลงรวบรวมพันธุ์กล้วย 6.แปลงเรียนรู้ผักอินทรีย์พื้นบ้าน 7.จุดเรียนรู้การเลี้ยงชันโรง และปลูกต้นทานตะวันในพื้นที่แปลงเรียนรู้ เพื่อความสวยงามและเป็นจุดถ่ายภาพให้กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ
กาญจนบุรี
1 ฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร ศพก.บ้านนาน้ำซำ จำนวน 10 ฐาน ดังนี้ 1) ฐานเรียนรู้การผลิตสารชีวภัณฑ์ (ไตรโคเดอร์มา, บิวเวอร์เรีย, BT, จุลินทรีย์ป่า , ไส้เดือนฝอย) 2) ฐานเรียนรู้การเผาถ่าน/กลั่นน้ำส้มควันไม้ 3) ฐานการเลี้ยงไก่ไข่พื้นเมือง 4) ฐานการเพาะเห็ด 5) ฐานการปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ 6) ฐานการเลี้ยงปลาน้ำจืด 7) ฐานการทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง 8) ฐานการกลั่นสมุนไพร 2 ศึกษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 1) ถ้ำผาน้ำทิพย์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ 2) ถ้ำค้างคาว พบกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของค้างคาวนับล้านตัว 3) ถ้ำชมพู 4) วัดเขาสามยอด 5) น้ำตกตาดฟ้า 6) น้ำผุดตาดเต่า 7) ถ้ำภูตาหลอ 8) จุดชมวิวดงสะคร่าน 9) โครงการพัฒนาป่าดงลาน 3 แหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร 1) การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง 2) การปลูกและการขยายพันธุ์ฝรั่ง 3) สวนลำไยสร้างรายได้ 4) การเพาะเห็ดเสริมรายได้ โปรแกรมการท่องเที่ยว โปรแกรม 2 วัน 1 คืน เรียนรู้ด้านการเกษตรที่ ศพก.  1-2 ฐาน > รับประทานอาหารกลางวัน > ชมถ้ำผาน้ำทิพย์ > ชมค้างคาว > รับประทานอาหารเย็น > พักผ่อนบ้านพักโฮมสเตย์/ภูผาม่านแคมป์ > แปลงหน่อไม้ฝรั่ง> สวนกล้วยหอมทอง > วัดเขาสามยอด > รับประทานอาหารกลางวัน > เดินทางกลับ หมายเหตุ  – โปรแกรมการท่องเที่ยวและค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม - อาหารว่าง 3 มื้อ โปรแกรม 1 วัน เรียนรู้ด้านการเกษตรที่ ศพก.  1-2 ฐาน > รับประทานอาหารกลางวัน > ชมถ้ำผาน้ำทิพย์ > ชมค้างคาว > เดินทางกลับ หมายเหตุ  – โปรแกรมการท่องเที่ยวและค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม - อาหารว่าง 2 มื้อ เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) 1) ถ้ำผาน้ำทิพย์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ ระยะทาง 3 กม. 2) ถ้ำค้างคาว  ระยะทาง 6 กม. 3) ถ้ำชมพู ระยะทาง 4 กม. 4) วัดเขาสามยอด ระยะทาง 6 กม. 5) น้ำตกตาดฟ้า ระยะทาง 18 กม. 6) น้ำผุดตาดเต่า ระยะทาง 12 กม. 7) ถ้ำภูตาหลอ ระยะทาง 16 กม. 8) จุดชมวิวดงสะคร่าน ระยะทาง 18 กม. 9) โครงการพัฒนาป่าดงลาน ระยะทาง 22 กม. สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน 1 ร้านค้าชุมชนบ้านเซินใต้ หมู่ 3  บ้านเซินใต้ ตำบลโนนคอม จำหน่ายเสื้อผ้าพื้นเมืองภูผาม่าน 2 ร้านค้าชุมชนบ้านโนนคอม หมู่ 1 บ้านโนนคอม ตำบลโนนคอม จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและของฝาก
ขอนแก่น
ฟาร์มเมล่อนญี่ปุ่นที่ได้มาตรฐานและใหญ่ที่สุดในระยอง
ระยอง
สวนเกษตรปลูกผักปลอดสารเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน
แพร่
วิสากิจชุมชนผู้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ นโยบายที่จะพัฒนาวิสาหกิจชุมชนฯก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาตาม ข้อบังคับ ระเบียบ กฎหมาย วิสาหกิจชุมชนฯ ประกาศของนายทะเบียน โดยจะคำนึงถึงสมาชิก และวิสาหกิจชุมชนฯเป็นหลัก ด้านการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ▪ พัฒนาคุณภาพ เกษตรกร พนักงาน กรรมการ และสมาชิก สู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ ▪ สร้างความเข้มแข็งของหมู่มวลสมาชิก ฝ่ายบริหารให้มีรากฐานที่มั่นคง ▪ พัฒนาองค์กรให้ดูสวยงาม มีสง่า สะดวกสบายแก่สมาชิกที่มารับบริการ ▪ ปรับโครงสร้างการบริหารภายในให้สมดุลและยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้าง ▪ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของฝ่ายจัดการ และการให้บริการแก่มวลสมาชิกโดยการบริหารจัดการที่ดี การสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีด้วย ▪ เสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนฯสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน ด้านการบริการสมาชิก • พัฒนาระบบโซเชียลมีเดีย และสื่อสังคมออนไลน์ ด้านการประชาสัมพันธ์ การตลาดและการขาย • พัฒนาข้อมูลสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพ และสื่อถึงสมาชิกอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง • เพิ่มพูนทักษะให้เจ้าหน้าที่ให้บริการด้วยความยิ้มแย้ม แจ่มใส สะดวก รวดเร็ว ประทับใจ พัฒนาระบบสวัสดิการให้แก่สมาชิกอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง • จัดทำประกันชีวิตกลุ่มสำหรับสมาชิกที่เป็นหนี้และไม่เป็นหนี้แต่สมัคร • เพื่อสร้างหลักประกันให้แก่สมาชิกและครอบครัว • ดำเนินการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อให้เป็นสวัสดิการสมาชิก
ชัยภูมิ
สวนที่ 1 สวนสละเฮียถึก สำหรับผู้ที่ชอบทานสละ มาที่นี้รับรองจะติดใจในรสชาติและอัธยาศัยที่น่ารักเป็นกันเองของเจ้าของสวน สวนสละเฮียถึกให้บริการชมสวน ชมวิถีชีวิตชาวสาน และชิมผลไม้ มีผลไม้สดไว้ให้ซื้อหากลับบ้านกันด้วย กิจกรรม : กินผลไม้ (400บาท/คน)ชมสวน เรียนรู้การทำสวนสละ จำหน่ายผลไม้สด สวนที่ 2 สวนอิสรีย์ฟาร์มม้าไทย เหมาะทั้งแบบครอบครัว มาเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง หรือต้องการส่วนตัว กิจกรรม - เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ - การขี่ม้าชมสวนผลไม้ - นั่งรถรางชมสวนผลไม้ - จุดเรียนรู้การทำสบู่ - อาชาบำบัด - สาธิตการแปรรูปทุเรียนชิมทุเรียนหนุบหนับ เค้ก - กินผลไม้ ท่านละ 400 บาท - ที่พักโฮมสเตย์ สวนที่ 3 สวนวดี กิจกรรม - ชมสวน - กินผลไม้ ท่านละ 400 บาท - จำหน่ายผลไม้สด สวนที่ 4 สวนอรุณบูรพา ที่นี้ให้บริการชมสวย ชิมผลไม้ และซื้อผลผลิตกลับบ้าน ออกมาแวะเที่ยววัดเขาสุกิมชมความงดงามของพิพิธภัณฑ์วัดเขาสุกิม กิจกรรม - ปั่นจักรยานชมสวน - เรียนรู้วิธีการแปรรูปผลไม้ เช่น ทุเรียนทอด แครกเกอร์ทุเรียน- เรียนรู้วิธีการปลูกและการดูแลสวนทุเรียน - กินผลไม้ (400 บาทต่อคน ) สวนที่ 5 สวนรินรดี กิจกรรม - มีที่พักระดับโรงแรม จำนวน 3 ห้อง พร้อมอาหารเช้า รับได้ 10 ท่าน ( มีห้องสำหรับ 2 คน 1ห้อง และสำหรับ4 ท่าน 2 ห้อง) - มีบริการ wifi - มีระบบความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิด - มีกิจกรรมเที่ยว ชม ชิม ทานผลไม้ อิ่มไม่อั้น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง - มีรถพาไปผจญภัยในสวนผลไม้ ไปดูทุเรียนพันธุ์อีหนัก ดูต้นสาละ และเดินเล่นในสวนผลไม้ - มีสนามเด็กเล่น ชิงช้า ม้าหมุน สะพานโค้ง - มีห้องน้ำ หญิง ชาย และคนพิการ - บนจุดชมวิว สามารถมองเห็น เขาคิชกูฎ เขาสุกิม เขาแกลบ เขาลูกช้าง - มาดูกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า - มีผลไม้และผักในสวนจำหน่าย เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง ในราคาถูก โปรแกรมการท่องเที่ยว เที่ยวชมสวน ไม่ทานผลไม้ ท่านละ 50 บาท เที่ยวชมสวน ทานผลไม้ ท่านละ 400 บาท ที่พัก รวมอาหารเช้า  สำหรับ 2 ท่าน ราคา 990 บาท  สำหรับ 4 ท่านราคา 1,990 บาท  ท่านที่มาพักและทานผลไม้จะเหลือเพียงท่านละ 350 บาท จากราคา 400 บาท ปฏิทินท่องเที่ยว ที่พัก เที่ยวชมสวน = ทั้งปี เที่ยวชมสวน/ทานผลไม้ = ปลายเมษา- ปลายกรกฎา หรือจนกว่าผลไม้จะหมด สินค้า ทุเรียนทอดกรอบ ทุเรียนกวน พริกไทย ผลไม้สด เงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียน เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) -  วัดเขาสุกิม  ระยะทาง 8 กิโลเมตร - หาดเจ้าหลาว อำเภอท่าใหม่ ระยะทาง 25  กิโลเมตร - น้ำตกกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ  ระยะทาง 20 กิโลเมตร - ศาลหลักเมือง   ระยะทาง 20 กิโลเมตร -  ตลาดชุมชนริมน้ำ ระยะทาง 20  กิโลเมตร -  อู่ต่อเรือเสม็ดงาม ระยะทาง 25  กิโลเมตร -  ท่องเที่ยวเชิงเกษตรเชาบายศรี ระยะทาง 15 กิโลเมตร สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน - ผลไม้สดตามฤดูกาล - ทุเรียนทอด - ทุเรียนกวน - แครกเกอร์ทุเรียน - พริกไทย - เค้กทุเรียน
จันทบุรี
หมู่บ้านที่รวมกลุ่มกันทำปลูกผักอินทรีย์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมและเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักจากเศษขยะ การทำปุ๋ยน้ำหมักจากหอยเชอรีย์ การปลูกผักอินทรีย์พันธ์พระราชทานจักรพรรณเพ็ญศิริ เข้ามาชมได้ทุกวัน โทร 08199896279
พะเยา
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดจันทบุรี เป็นหน่วยงานของกรมส่งเสริมการเกษตร มีหน้าที่ให้บริการความรู้ และฝึกอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแหล่งศึกษาดูงานด้านการเลี้ยงและแมลงเศรษฐกิจ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ผึ้งและชันโรง และการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีจุดเรียนรู้ต่างๆ ภายในศูนย์ ดังนี้ - จุดเรียนรู้การเลี้ยงผึ้งพันธุ์ - จุดเรียนรู้การเลี้ยงผึ้งโพรง - จุดเรียนรู้การเลี้ยงผึ้งชันโรง - จุดเรียนรู้การเลี้ยงจิ้งหรีด - จุดเรียนรู้การแปรรูปผลิตภัณฑ์ผึ้ง และผึ้งชันโรง - จุดเรียนรู้การเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกพืชผักในภาชนะ การเพาะเห็ดนาฟ้า ) โปรแกรมการท่องเที่ยว สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) - ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี (ทุ่งเพล) ระยะทาง 21 กม. - ศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริจังหวัด จันทบุรี ระยะทาง 24 กม. - สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 จันทบุรี ระยะทาง 25 กม. - ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะทาง 48 กม. - ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านปัถวี ระยะทาง 5 กม. สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน - น้ำผึ้ง - น้ำผึ้งชันโรง - ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผึ้งและผึ้งชันโรง (สบู่น้ำผึ้ง แชมพูน้ำผึ้งสมุนไพร ไขผึ้งสมุนไพร ลิบบาล์มไขผึ้ง โลชั่นโปรโปลิส ครีมนมผึ้ง)
จันทบุรี